แกน่ะยังไม่รู้จักกุมมะ

ใช่เพราะชั้นไม่ใช้คนญี่ปุ่นไงหล่ะ
เอ๊ะ ไม่ใช่เหรอ อ้อๆ ไม่ใช่ๆ
คราวนี้จะมาพูดถึง anime เรื่อง Omae wa Mada Gunma wo Shiranai
Omae wa Mada Gunma wo Shiranai (お前はまだグンマを知らない)
หรือ “แกน่ะยังไม่รู้จักกุมมะ” เป็นเรื่องเกี่ยวกับกุมมะ
ซึ่งนำเสนอสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของกุมมะที่มีแต่คนกุมมะเท่านั้นจะรู้จัก

ก่อนถึงกุมมะ

หลังเข้าเขตกุมมะ
คนไทยดูได้ คนญี่ปุ่นดูดี คนกุมมะยิ่งต้องดู
Omae wa Mada Gunma wo Shiranai คือเรื่องที่เด็กชายชื่อ คามิสึกิ โนริ ย้ายจากจิบะ มายังกุมมะ
ระหว่างเดินทาง คามิสึกิ โนริ ส่งข้อความไปทักทายเพื่อนที่อยู่กุมมะ แต่ทว่าข้อที่เพื่อนส่งมาให้นั้น
“ไม่มีใครมากุมมะแล้วกลับไปได้โดยมีชีวิตรอด!”
และนั่นเป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นของความสะพรึงที่พระเอกของเราจะได้พบเจอ
เรื่องนี้ก็เป็น anime สั้นๆ ตอนละ 3 นาที
ดูแป๊บๆ ก็จบแล้ว
ส่วนที่ชอบของเรื่องนี้เลยคือการแนะนำกุมมะ
โดยนำเสนอเรื่องแปลกๆ อย่างตอนแรกเป็นเรื่องรถไฟ
เรื่องความชอบของคนในพิ้นที่ อาหารการกิน
โดยแปลงให้เรื่องมันโอเว่อๆ หลุดสามัญสำนึกปกติ
ความคิดไปเองของพระเอกและบรรยากาศที่เปลี่ยนไปมาได้อย่างไม่น่าเป็นไปได้

“ดีจริงๆ ที่ได้มากุมมะ”
และส่วนที่ชอบมากก็คือการนำ”นายกเทศมนตรี”(คนจริง)มาพูดด้วย
ของกินที่เอาให้ดูก็น่ากินใช้ได้เลย
ดูแล้วก็รู้สึกว่า เออ ดีเนอะ นำประเทศตัวในรูปแบบที่คนในประเทศอาจจะยังไม่รู้จัก
จะได้มาเที่ยวกับแล้วพบกับความสะพรึงไปพร้อมกัน

Mayor of takasaki, Tomioka kenji
ซึ่งเรื่องนี้เมืองไทยก็ได้และอาจจะทำ และน่าจะทำได้เยอะเลย ฮ่าๆๆๆ
อย่างเช่น
“แกน่ะยังไม่รู้จักภาคเหนือ”
ตัวอย่างเนื้อเรื่องคือ
ชายหนุ่มมาจากกรุงเทพต้องย้ายมาทำงานที่เชียงใหม่
เค้าหิวข้าวมากเลยเดินไปซื้อของที่ตลาด
พบกับขนมจีนน่ากินมากจึงเดินเข้าไปซื้อ
“คุณยาย เอาขนมจีนถุงนึง”
คุณยายตอบกลับมาว่า “ซาวบาท”
เอ๊ะ ซาวบาท ซาวบาทคืออะไร เสียง(sound bath)เหรอ คนที่นี่ซื้อไม่ได้ใช้เงิน แต่ใช้เสียงงั้นเหรอ
แล้วจู่ๆ ก็ตาลุงเดินจากด้านหลัง
“หึหึ นี่น่ะ มันไม่ใช่ขนมจีน แต่มันขนมเส้น!” พร้อมสายตาของคนทั้งตลาดรุมจ้องมอง
เดี๋ยวๆๆ นี่มันยัง ไม่แล้ว ไม่ปกติแล้ว ชายหนุ่มวิตกกังกล หันหลังจะเดินหนี
จู่ป้าก็จับแขนเค้าเอาไว้
“อ่าวอ้าย จะฟั่งไปไหน” พร้อมสายตาและออราที่พบบดบังแสงสว่างรอบๆ ตัว
ไม่ไหวแล้วชายหนุ่มตะโกน “ปล่อยผมไปเถอะคร้าบ” พร้อมกับวิ่งไปล้มไปออกจากตลาด
ก็คงประมาณนี้มั้ง ถ้าเอามาเทียบกับตอนที่ 1
สุดท้ายเรื่องนี้ก็สั้นๆ ขำๆ ดูแก้เบื่อได้ ดูแล้วอยากไปเที่ยวก็จะดี
ว่าจะให้ anonymous คอมเมนต์ได้เหมือนกัน แต่กลัว spam ง่ะ